การนำเรือนชะตาจรมาผสมกับความหมายของ ปัจจัยโค้งนั้นเป็นหลักการที่ท่านอาจารย์จรัญ ท่านใช้อยู่ประจำ เพียงแต่การขยายความโดยเรือนชะตาดังกล่าว
หากมีผู้ถามท่านอาจารย์จรัญ ท่านจะกล่าวว่า เป็นเรื่องประกอบ
ตัวอย่างที่อาจารย์ยกมาสอนนั้น หากค้นเจอจะนำมาให้ครับ

ตอนนี้จะยกตัวอย่างที่เคยเข้าใจมาคุยก่อน
มร.(จย) ถึงโครโนส(กน) แสดงถึงปีที่เจ้าชะตาจะมีโอกาศประสบกับเรื่องสูงส่ง(อาจจะหมายถึงเหตุการณ์ และบุคคล ซึ่งบุคคลที่สูงส่งนั้นอาจรวมถึงบิดา-ผู้อุปการะได้)

หากนำเอาเรื่องทฤษฏีมาประกอบเช่น(เรื่องของ วี ๑ หรือ วี ๒ ก็คล้ายๆกัน)
๑. มร.(กน)มีโค้งก่อน ๓๐ องศา
เรื่องราวของมร.ที่จะนำเอาเรือนมาร่วมคงแสดงค่อนไปทางการงานความมุ่งมั่นของเจ้าชะตา
หากพ้น ๓๐ องศาโดยประมาณเหตุการณ์จะค่อนมาทางเรื่องลาภผล หรือความหมายเรือนที่ ๑๑

๒. เรื่องของระยะเวลาเปลี่ยนแปลงของระยะองศา
ตัวอย่างจริง
โครโนส(กน) เดิมอยู่ในเรือนที่ ๔ ของ มร.(กน) ๑๓ องศา 
ส่วน มร.(กน)จะอยู่ในเรือนที่ ๙ของ โครโนส.(กน) ๑๗ องศา
-เนื่องจากองศาของ ๒ ปัจจัยที่กล่าวนี้ย่อมไม่เท่ากันในต่างดวงชะตา ย่อมทำให้ เรื่องราวประกอบของต่างดวงชะตา แปลออกคนละเรื่องราว

ดังนั้น เมื่อมร.(จย)ทำมุม ๑๘๐ กับโครโนส(กน)ครั้งแรก
โครโนส(กน) จะอยู่ในเรือนที่ ๔ ของมร.(จย)
ส่วนเมอริเดียน(กน)ในเวลานั้นจะโค้งวี ๑ อยู่ในเรือนที่ ๘ ของโครโนส(จย)
ความหมายก็แปลไปตามเรือนครับ
อาจจะหมายความว่า ในช่วงนี้เจ้าชะตาประสบกับเรื่องที่ดี มีงานใหญ่-ติดต่อกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต้องทำที่บ้าน ซึ่งเจ้าชะตาต้องเป็นผู้รับสืบทอด(มรดก) เรื่อวราวอาจจะแปลต่างต่างออกไป แต่ต้องอยู่ภายใต้ตำรานะครับ

จากโครงสร้างที่พยากรณ์นี้ ต้องตรวจดูดาวจรวงนอกว่า ในช่วงที่กล่าวนี้ อยู่ในตำแหน่งใหน สำพันธ์กันอย่างไร กับดาวในดวงกำเนิดครับ.

ขอบคุณครับ อ่านแล้วมึน

ผมขอสมัครเรียนหลักสูตรทางไกลด้วยคนนะครับ

พร้อมเมื่อไหร่จะประกาศให้ทราบครับ...กำลังจัดพิมพ์เรียบเรียงอยู่ครับ...ขอขอบคุณครับที่ถามมา