ReadyPlanet.com


บทความ โหราจารย์มานิตย์ ดวงครูที่น่าศึกษา


        เมื่อคืนนี้ ( วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 ) ผมฝันถึงท่านโหราจารย์ มานิตย์   ธีรเวชชโรกุล โดยฝันว่าไปหาท่านที่ร้านขายยาบ้วนแช ปากซอยองครักษ์บางกระบือ กรุงเทพมหานคร ในฝันนั้นได้คุยกับท่านอาจารย์ เรื่องเล่นหุ้น เพราะเห็นท่านกำลังโทรสั่งขายหุ้นของท่าน  และยังคุยเรื่องพงศาวดาร ของรัชกาลต่างๆ ที่ท่านอาจารย์ได้เก็บสะสมไว้เป็นตั้งๆ   ในฝันนั้นก็เหมือนกับรู้ๆอยู่ว่าท่านเสียชีวิตแล้ว ท่านยังบอกกับผมว่า ท่านเดินจากบ้านบางกระบือไปฝั่งธนโดยข้ามสะพานซังฮี้ได้ไปกลับ แถมยังบอกว่าแข็งแรงแล้ว เรียกว่า ฝันกันเป็นเรื่องเป็นราว รู้สึกจะเป็นภาพสีซะอีกด้วย   ตำราโบราณทางเหนือท่านบอกว่า ถ้าฝันวันเสาร์ หมายถึงคืนวันเสาร์ เรื่องมักจะแรง   ซึ่งเท่าที่ผมมีประสบการณ์ในการสังเกตหลายครั้งแล้ว ก็มักจะเห็นว่ามีส่วน   ซึ่งมาคิดอีกทีไหนๆจะแรงเรื่องผีและคนตายแล้ว ในฐานะที่ท่านอาจารย์มานิตย์ ท่านเคยเป็นโหรใหญ่คนหนึ่งในยุคของท่าน ก็ขอให้มาแรงทางบทความโหราศาสตร์ก็แล้วกันครับ   พอตื่นเช้าขึ้นมานึกทบทวนดูแล้ว ก็ไปเปิดเว็บท่านอาจารย์โรจน์ จินตมาศ  http://www. rojn-info .com  อ่านบทความต่างๆที่ท่านอาจารย์โรจน์ ท่านเขียนถึงท่านอาจารย์มานิตย์ ทำให้ภาพต่างๆในอดีตที่ผมไปคลุกคลีอยู่กับท่านมา หวลกลับมาในความทรงจำได้มากมาย



ผู้ตั้งกระทู้ ภารต...แกะดวงครูโหร :: วันที่ลงประกาศ 2010-01-26 22:14:27 IP : 118.172.8.50


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 51 (2034326)

ศูนย์รังสีสำคัญที่เกี่ยวกับ ห้วใจวาย อีกอันหนึ่ง ได้แก่ อาทิตย์/มฤตยู กำเนิด 12 เมษ 00 ซึ่งพอบวกค่าโค้งสุริยยาตร์ 56.30 องศา จะได้ผลลัพธ์ เป็น อาทิตย์/มฤตยู จร วี1 อยู่ที่ 8 มิถุน 30 ซึ่งทำมุมเล็ง 180 องศาพอดี  กับ เมอริเดียน กำเนิด ซึ่งอยู่ที่ 8 ธนู 53 และมุมแรง 135 กับ เสาร์สะท้อน 24 มก 25 การพลัดพราก จากไป การถึงแก่กรรม    ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ตัวสำคัญ ทำให้วัยนี้เรื่องนี้แสดงผลออกมา

ในพื้นดวงกำเนิดนั้น จุดหัวใจวาย นี้ ทำมุมฉาก แรง 90 องศา กับ อังคาร แรงกระตุ้น ที่ 12 มก 35 และ ฉากกับ วัลคานุส สะท้อน ความรุนแรง อันเนื่องมากจากทำมุมฉากกับ เสาร์/ซีอุส 12 กฎ 08 ที่แปลว่า กรรมพันธุ์ 
โดยมีเงื่อนไขในชะตากรรมว่า   เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ถ้าเจ้าชะตา เป็นนักประดิษฐ์ ซึ่งได้แก่ จันทร์/ซีอุส 11 กฎ 37 ซึ่งทำมุมฉาก 90 องศากับจุดหัวใจวายนี้ และ เจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้ ต้องเป็นไปในลักษณะ แอตเมตอส / โปไซดอน  ซึ่งลึกซึ้งทางปัญญา11 กฎ 25  เท่านั้น 

จะสังเกตว่า ดวงนี้ ทั้งจันทร์/ซีอุส และ แอตเมตอส /โปไซดอน  ทับกันสนิทองศาซะด้วย
พอแกะดวงท่านอาจารย์มาถึงตรงนี้ เห็นภาพเลยว่า เงื่อนไขการเสียชีวิตของท่านอาจารย์มานิตย์ มาจาก โรคหัวใจวายอันเป็นโรคทางพันธุ์กรรม ซึ่งโรคนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างรุนแรง ต้องเนื่องมาจากเจ้าชะตาเป็นนักประดิษฐ์ ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านั้น เกิดขึ้นจากการลึกซึ้งทางปัญญาและใช้ในกิจกรรมที่ลึกซึ้งทางปัญญา ซึ่งเจ้าปูมปฎิทินโหรทุกระบบที่สามารถบรรจุในเครื่องคำนวณแบบพกพา นี่แหล่ะ ใช่เลย
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ถ้าท่านอาจารย์มานิตย์ ไม่ได้คิดค้นเจ้าตัวที่ว่านี้ ท่านอาจารย์อาจจะ ยังไม่เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจวาย ก็เป็นได้  
เรื่องพวกนี้พอแกะจากดวงแล้ว จะสอนให้เราเห็นเรื่อง เงื่อนไขชะตากรรมในดวงกำเนิด อันเป็นเหตุให้เกิดเงื่อนไขสืบเนื่อง แนวพระพุทธศาสนา เรื่อง อิทัปปัจจยตา อันได้แก่หลักธรรมที่ว่า เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี และ ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็จะไม่มีเช่นกัน 
นอกจากนี้ เรื่องนี้ ยังสอนให้เรา ในเรื่องการแก้เคราะห์ร้าย ในดวงชะตา ว่าจะต้องหลีกเลี่ยงเงื่อนไขใดบ้าง ซึ่งตามหลักการทางโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนนั้น ท่านปรมาจารย์โหรทั้งหลาย ท่านสั่งสอนแนะนำให้ใช้วิธีนี้แก้กรรมเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ใช้พิธีกรรมทางความเชื่อหรือทางศาสนาแนวต่างๆแต่อย่างใดเลย และเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลอันเป็นเจ้าชะตาเฉพาะคนนั้น    นอกจากนี้เรื่องนี้ก็มีวิธีแสดงให้เห็นได้เฉพาะแต่ในเทคนิคของวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนนี้เท่านั้น โหราศาสตร์แนวทางอื่น และวิชาพยากรณ์ศาสตร์อื่นๆนั้น บอกให้ไม่ได้เลย   
และในทางกลับกัน   นอกจากเคราะห์ร้ายแล้ว เงื่อนไขในการสร้างปัจจัยที่ดีมีประโยชน์ต่อเจ้าชะตา ก็มีทางเป็นไปได้เช่นกัน   ในวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ต่อๆ.. วันที่ตอบ 2010-02-11 12:00:57 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 52 (2034328)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...รูปตามนี้เลย วันที่ตอบ 2010-02-11 12:11:05 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 53 (2034330)

ถ้ามาพิจารณา ดวงอมาวสีก่อนหน้าวันถึงแก่กรรม ซึ่งตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เวลา 18.36 น. กรุงเทพนั้น ในภาพดวงสากลแบบพลาสิดุส จะเห็นได้ว่า เฉพาะตัวของดวงนี้เอง ก็แรงมากเพราะ ความแรง วัลคานุส 20 กฏ 01 นั้นไปเล็งสนิทองศากับเมอริเดียน 20 มก 01 ของดวงนี้ 

 

ส่วนอาทิตย์กับจันทร์ที่ทับกันสนิทองศา ที่ 15 ตล 45 นั้น มีเสาร์บาปเคราะห์ อยู่ที่ 15 พภ 48 ในมุม มรณะ 150 องศาสนิท หรือเรียกกันในภาษาโหราว่า อมาวสีลากเอาเสาร์มรณะมาด้วย 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ทยอย วันที่ตอบ 2010-02-11 12:17:57 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 54 (2034341)

    นอกจากนี้ ในเทคนิคหลักวิชาจันทรยาตร์ จันทรคติ หรือ Lunar Arc

ในตำราโหราศาสตร์ยูเรเนียนหลักสูตรการศึกษาถิ่นไกล ของโรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยท่านปรมาจารย์โหรพลตรีประยูร พลอารีย์ ได้เขียนในบทเรียนเรื่อง การพยากรณ์จรตามอายุขัย ตอน โค้งจันทร์ยาตร์  ว่า
".. โค้งจันทรยาตร์ คือระยะเชิงมุมระหว่าง จันทร์จรสุริยคติ  กับ จันทร์กำเนิด ซึ่งอาจคำนวณได้จาก สูตร
     โค้งจันทรยาตร์= จันทร์ (จค) - จันทร์ (กน)
          เนื่องจาก จันทร์ เป็นปัจจัยทางโหราศาสตร์ที่ โคจรเร็วมาก เพราะฉะนั้น โค้งจันทรยาตร์าจมีค่าถึง 360 องศา หรือกว่านั้น (คือทบไปอีก 1 รอบจักรราศี) ก็ได้ โดยเฉลี่ยแล้ว โค้งจันทรยาตร์ จะมีค่า เท่ากับ 360 องศา เมื่อเจ้าชะตาอายุ 28 ปี กล่าวคือ จันทร์ (จค) โคจรมา ทับ จันทร์กำเนิดในดวงชะตา.."
"..โค้งสุริยาตร์ก็ดี โค้งจันทรยาตร์ ก็ดี ความจริงก็คือ กุญแจการพยากรณ์จรตามอายุขัย ชนิดหนึ่งนั่นเอง ซึ่งเมื่อนำเอาไปบวกเข้ากับ สมผุส ของดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยต่างๆในดวงชะตา เราก็จะได้ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยต่างๆ ในตำแหน่งใหม่ หรือพูดตามเทคนิคของวิชาโหราศาสตร์ ก็คือ ทำให้เกิด ดาวพระเคราะห์จร หรือ ปัจจัยจร ขึ้นอีกชนิดหนึ่ง.."
"..ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยจรสุริยยาตร์จะเป็นผู้กำหนด "ปี" ที่จะเกิดเหตุการณ์ ส่วนดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยจร จันทรยาตร์จะเป็นผู้กำหนด เดือน ที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ปรากฏในดวงชะตากำเนิด และจะต้องเป็นที่เข้าใจกัน ว่า การพยากรณ์โดยอาศัย "โค้งจันทรยาตร์" จะต้องอยู่ในกรอบหรือขอบเขตของการพยากรณ์โดย "โค้งสุริยยาตร์" เสมอไป เพราะโค้งสุริยยาตร์ เป็นผู้บอก "ปี" ตามปรัชญาการพยากรณ์จร ดังได้กล่าวมาแล้ว.."
 
ถึงวันอมาวสี เดือนตุลาคม วันที่ 9 นั้น คำนวณค่าจันทรยาตร์ Lunar Arc จันทร์วี6 ใช้โปรแกรมยูเรนัส คำนวณ ออกมาจะมีค่าเท่ากับ 286.56 ซึ่งทำมุมกับ แอตเมตอส กำเนิด และ มฤตยู กำเนิด ตามรูป....และ ถึงวันมรณะ ค่าจันทรยาตร์ Lunar Arc มีค่า เท่ากับ 290.10 ซึ่งทำมุมกับ จันทร์กำเนิด เสาร์กำเนิด และฮาเดส กำเนิด   เรียกว่า จับตรงไหนเป็นโดนทั้งสิ้น โดยเรียงตามลำดับขั้นช่วงเวลากันมาเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...อิอิ วันที่ตอบ 2010-02-11 12:40:07 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 55 (2034346)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...รูปเทียบดวงจรอมาวสีกับกำเนิด วันที่ตอบ 2010-02-11 12:52:03 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 56 (2034350)

ซึ่งถ้ามาเปรียบเทียบกันระหว่างดวงอมาวสีกับดวงกำเนิด ดังภาพคห.55 ข้างบนด้วยแล้ว จะเห็นว่า เสาร์กำเนิดของท่านอาจารย์มานิตย์ซึ่งอยู่ที่ 5 มิถุน 38 ทำมุมแรง 135 กัน ทำให้เสาร์กำเนิดที่กุมจันทร์กำเนิด 4 มิถุน 31 อันเป็นจุดเจ้าชะตา ถูกปลุกให้ตื่นทำงานขึ้นมา !! เรียกว่า เสาร์มรณะฟ้าจรมาถึงเสาร์กำเนิดแล้ว และเสาร์กำเนิดนี้ ก้ทำมุมกับ แอตเมตอส จุดแห่งความตาย ที่ 15 เมษ 53 ห่างกันในมุมแรง 45 องศา และจุดอมาวสี เล็งสนิท 180 องศากับ  แอคเมตอสกำเนิด ด้วย โดยมีมฤตยู ความฉับพลัน ซึ่งอยู่ที่ 00 มิถุน 34 ทำมุมแรง 135 องศา มาซ้ำเติมให้รุนแรงแบบปุบปับฉับพลันยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะดูพิเคราะห์อย่างไร ก็เห็นได้แต่ให้ผลลัพธ์ไปในทางร้ายแก่ดวงเจ้าชะตาทั้งสิ้น 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...มาเรื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-02-11 13:02:10 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 57 (2034352)

นับจากวันอมาวสี 9 ตุลาคม พ.ศ.2542 เวลา 18.36 น. ที่ว่าเป็นแม่แบบแนวรุนแรงแล้ว 

พอมาดู ฟ้าในวันที่จันทร์ทำมุมสนิท 45 องศากับอาทิตย์ ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2542 เวลา 18.45 น. หรือที่เรียกว่า ดวงประจำสัปดาห์ ภาพท้องฟ้าจะเห็นได้ชัดขึ้นขึ้นมาอีก ตามรูป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เขยิบ วันที่ตอบ 2010-02-11 13:08:47 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 58 (2034354)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...??? วันที่ตอบ 2010-02-11 13:10:58 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 59 (2034355)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เทียบกับดวงกำเนิด วันที่ตอบ 2010-02-11 13:14:24 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 60 (2034356)

จะเห็นว่า อาทิตย์จรมาในเรือนมรณะ 19 ตล เล็ง 180 องศา ฮาเดส บาปเคราะห์ ซึ่งอยู่ที่ 20 เมษ แทบจะสนิทองศา แถมยังจันทร์จร 04 ธน ยังไปปลุกกระแสจันทร์กำเนิดและเสาร์กำเนิดให้แรงขึ้นโดยไปทำมุม 180 องศา เล็งจันทร์กำเนิด 04 มิถุน   และเสาร์กำเนิด 05 มิถุน ที่กุมกันอยู่แล้วในดวงกำเนิด เรียกว่า จากอมาวสี เดือน วันที่ 9 ตุลาคม แปลว่ามีมาในรอบเดือนนี้ แน่แล้ว เราล๊อกช่วงเวลาได้มาตามลำดับมาจากโดยเริ่มจากมี เงื่อนไขในดวงกำเนิด โรคภัย และชะตากรรม จากนั้นมาสู่ ช่วงวัยอายุ 56 ปีเศษ มีมาในปี ทั้ง ดวงทินวรรษ ดวงโค้งสุริยยาตร์   มีมาในดวงเดือน มีมาในสัปดาห์ เรียกว่านับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2542 ไปไม่เกิน 7 วัน เป็นโดนแน่ เพราะเลยไปถึง วันที่อาทิตย์จันทร์จรท้องฟ้า ทำมุมฉาก 90 องศากันนั้น ซึ่งตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม 2542 เวลา 22.00 น.แล้วปรากฏว่า ภาพไม่แรงแล้วต่อเจ้าชะตาดวงนี้ ดังรูป...

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ค่อยๆบีบวงให้แคบเข้า... วันที่ตอบ 2010-02-11 13:17:26 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 61 (2034357)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..หลังพายุฝนแล้ว วันที่ตอบ 2010-02-11 13:20:12 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 62 (2034359)

    สรุปว่า เหตุการณ์นี้จะต้องเกิดในช่วงระหว่างวันที่ 13 – 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 บีบมาได้ แค่ 4 วันนี้เท่านั้น วันที่ 14 ตุลาคมนั้น เป็นวันสำคัญเข้าสูตรของดวงชะตาในช่วงวัยนี้ คือ อาทิตย์จรสุริยยาตร์ โค้ง อายุ 56.30 วี 1 ซึ่งจรอยู่ที่ 19 เมษ 56 โดนอาทิตย์จรท้องฟ้าทำมุม 180 เล็งใส่ ณ เวลา 00.14 น. ตรงนี้ที่เป็นวันสำคัญเข้าสูตรที่แรงเพราะ ลำพังตัวอาทิตย์ วี 1 เองนั้น  เข้าจันทร์ เข้าเสาร์ และฮาเดสกำเนิด ในดวงกำเนิด ซึ่งจุดนี้ก็ร้ายอยู่แล้วด้วย  ซึ่งอาทิตย์นั้นพออยู่ที่ 19 ตล 56 ตำแหน่งเล็งกลุ่มดาวพวกนี้เลยแรงเต็มๆ

 เรียกว่า พอย่างเข้า วันที่ 14 ตุลาคม 2542 นี้ ท่านอาจารย์เราก็โดนเข้าแล้ว  

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...พรหมชาล..ตาข่ายแห่งพระพรหม? วันที่ตอบ 2010-02-11 13:22:26 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 63 (2034364)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ภาพวันมรณะ วันที่ตอบ 2010-02-11 13:31:59 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 64 (2034368)

และพอย่างเข้าวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เมื่ออาทิตย์จร มาอยู่  27 กภ ทำมุมแรง 45 องศา กับจุดหัวใจวาย อาทิตย์/มฤตยู กำเนิด 12 เมษ 00 แถมยังเข้า อังคาร กำเนิด 12 มก 45 ในมุมแรง 45 และ วัลคานุส สะท้อน   ความรุนแรง กำเนิด 11 มก 18 เรียกว่าปลุกให้ จุดหัวใจวายในดวงกำเนิดให้ ลุกขึ้นมาทำงานอย่างรุนแรง ซะงั้น   อาทิตย์สะท้อนในดวงกำเนิด 6 พภ 34 โดนเสาร์/มฤตยู จรท้องฟ้าวันนั้น จุดถึงแก่กรรมอย่างฉับพลัน เข้าทำมุมแรง 45 องศา ล๊อคไว้อีก   เวลานั้น 16.00 น. พุธท้องฟ้า 15 พิจิก 21 กับเสาร์ 15 พภ 21 ทำมุมเล็ง 180 กัน สนิทยันองศาลิปดา ทำมุมแรง 22.30 องศา กับอาทิตย์ท้องฟ้าวันนี้ ที่ 22 ตล 33 และอาทิตย์จรนี้ อยู่ในภพที่ 8 มรณะกับดวงกำเนิด แปลได้ว่า ยาที่ใช้รักษา ( พุธ ) น่ะช่วยไม่ได้แล้ว หรือ ท่านอาจารย์มานิตย์ที่ประกอบอาชีพขายยา ซึ่งภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า  ท่านเอี๊ยะซือ  ของเราเลยแย่ 

ยิ่งจันทร์จรท้องฟ้าซึ่งหมายถึง ชั่วโมง มาอยู่ที่ 8 มก 52 ทำมุมแรง 45 กับอาทิตย์กำเนิด 23 กภ 45 แล้ว แลจันทร์นี้น่ะโคจรถึง เมอริเดียนกำเนิด ที่ 8 ธน 53 ในมุม 30 องศาอย่างผิวแผ่ว

วันมรณะก็มาแล้ว  ชั่วโมงก็มาแล้ว  ขาดแต่ นาทีเท่านั้น....

( ตรงสีแดงมีการแก้ไขคับ )

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...Checkmate วันที่ตอบ 2010-02-11 13:35:50 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 65 (2034386)

คำตอบอยู่ในตู้เซฟ ใช่ว่าจะอยู่ที่รูปลักษณ์ เล่าอ้าง ...

ผู้แสดงความคิดเห็น บทความที่สามารถนำมาเป็นครูได้เลย วันที่ตอบ 2010-02-11 14:22:23 IP : 118.172.51.35


ความคิดเห็นที่ 66 (2034388)

ก็แหม  ของไหว้ครูบูชาครูโหรกันทั้งที  จะเขียนเล็กๆได้ยังไง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เพราะกลัวเสียชื่อครูที่สอนอ่ะ วันที่ตอบ 2010-02-11 14:27:45 IP : 118.172.96.197


ความคิดเห็นที่ 67 (2034628)
        นาทีเกิดเหตุนั้น ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ด้วย มิติของเมอริเดียน เวลา และลัคนา สถานที่ กรุงเทพ จะต้องนำมาเกี่ยวข้องเสมอ ซึ่ง เมอริเดียน/ลัคนา ท้องฟ้า เวลานั้นและสถานที่นั้น   ณ เวลามรณกรรม 16.00 น. อยู่ที่ 4 กภ 26 ทำมุมแรง 45 องศา กับ จุดวันตาย อันได้แก่ อาทิตย์/อาทิตย์//แอตเมตอส 19 มน 40 
         จุดมรณกรรม แอตเมตอส+แอตเมตอส-อาทิตย์ ที่ 8 มิถุน 24 ทำมุมแรง 135 องศา กับอาทิตย์ จรท้องฟ้า 22 ตล 34 ครบวงจร  และเท่ากับ อังคาร/เสาร์ จร ท้องฟ้า จุดมรณะ พลัดพราก ซึ่งอยู่ที่ 7 มน 26 ในมุม 90 องศา จึงทำให้วันนี้จึงแรงในด้านวันตาย

         จุดอิทธิพล สำคัญอีกจุดหนึ่งทางยูเรเนียน ซึ่งถือว่า เป็นตัวแทน เจ้าชะตาที่สำคัญ ได้แก่ Personalilty Point = เมอริเดียน+อาทิตย์ +โปไซดอน = 9 พภ 14 ทำมุมฉาก 90 องศากับ ราหู 9 สห 47 จุดเจ้าชะตา และ แอตเมตอส สะท้อน จุดความตาย 10 กภ 07

          จุดอิทธิพลสำคัญที่ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล  ค้นพบและนำมาใช้เกี่ยวกับบุคคลแทนตัวเจ้าชะตาได้แก่  จุด เมษ+อาทิตย์ - ( เมอริเดียน/ลัคนา ) = จุดสภาพบุคคล ดวงนี้อยู่ที่ 2 พภ 42 ซึ่ง ณ เวลาเสียชีวิตนั้น  ไปลงตัวทำมุมกับ  ลัคนา เวลานั้น ของท้องฟ้า 18 มีน 04 ในมุมแรง 45 องศา และจุดหัวใจวาย อาทิตย์/มฤตยู ( 17 ธน 43 ) ในมุมแรง 135 แล้วทับสนิทแนบแน่นกับ มฤตยู/วัลคานุส ( กระตุกรุนแรง ) ที่ 01 พภ 45

 
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เวลามรณะ วันที่ตอบ 2010-02-12 10:07:00 IP : 118.172.3.229


ความคิดเห็นที่ 68 (2034630)

แล้วทำไมเชื่อว่าเวลานี้ท่านอาจารย์เสียชีวิต  วิญญาณออกจากร่าง  อันนี้พิจารณาจาก  ค่าโค้งเมอริเดียน หรือ วี8 นั่นเอง เพราะ ณ วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 นั้น เวลา 16.00 น. คำนวณค่าโค้งเมอริเดียน จากโปรแกรมยูเรนัส ได้ 295.38.03 พอมาหาค่า เมอริเดียน วี 8 ได้ 184.31 หรือ 4 ตล 31 ทับสนิทกับ เนปจูน/โปไซดอน 4 ตล 17 ที่แปลว่า  มองเห็นตนเอง  !!! 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ถ้าไม่ส่องจะเห็นเหรอ วันที่ตอบ 2010-02-12 10:15:13 IP : 118.172.3.229


ความคิดเห็นที่ 69 (2034633)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...กาลชะตาเวลามรณะ วันที่ตอบ 2010-02-12 10:18:57 IP : 118.172.3.229


ความคิดเห็นที่ 70 (2034643)

พิจารณาดวงกาลชะตาในเวลาเสียชีวิต  เห็นโครโนสอยู่ภพ 4 ตามตำราเขาว่า  ที่สุดแล้วท่านอาจารย์คงไปอยู่ในที่สุคติสูงส่ง  อีกทั้งในดวงนี้ เมอริเดียน โดนโครงสร้างดัชนีพระเจ้า ( Yod ) กับ แอตเมตอส 19 พภ 57  และวัลคานุส 20 กฏ 56 จิ้มเอา  ซึ่งแปลว่า  หัวดื้อไม่ยอมก้มหัวให้ใครด้วยแล้ว  แสดงว่า ท่านอาจารย์มานิตย์ในปรภพ  คงจะเฮี๊ยนน่าดู !!

พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของท่านอาจารย์มานิตย์  ธีรเวชชโรกุล เพราะท่านเกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์  2486 เพราะวันนี้เป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553

ผมเลยถือโอกาสนี้ ร่วมรำลึกถึงท่านอาจารย์  ด้วยการเผยแพร่หลักวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน ในเรื่องกระบวนการหาวันตาย  เผื่อว่าจะมีผู้สนใจในหลักวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนมาอ่านเข้า  แล้วนำหลักการไปใช้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าและเป็นการสืบต่อวิทยาการไม่ให้วิชาแบบนี้สูญหายไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ศิษย์คนหนึ่งจากเชียงใหม่ วันที่ตอบ 2010-02-12 10:43:22 IP : 118.172.3.229


ความคิดเห็นที่ 71 (2034868)

เอาไปรวบรวมลงเป็นบทความแล้วคับ

http://www.astroclassical.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538775509

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...บูชาครูโหรา วันที่ตอบ 2010-02-13 00:05:45 IP : 118.172.100.188


ความคิดเห็นที่ 72 (2035193)

เดิมกะว่าจะตั้งข้อสังเกตุ เพื่อที่จะเป็นแนวทางเมื่อจะไปรวบรวมเป็นบทความ แต่มาวันนี้พึ่งเห็นว่ารวบรวมเป็นบทความไปแล้ว

แต่อย่างไรเสียก็คิดว่ามีส่วนที่น่าจะต้องตั้งข้อสังเกตุ เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคดวงจรตามอายุขัย โค้งจันทรยาตร์จันทรคติ(จจย.จค v6) กับโค้งเมอริเดียน(v8) เนื่องจากเป็นเรื่องของกลไกเวลาตามอายุขัย

ตามเอกสารการศึกษาถิ่นไกล กล่าวว่า "..ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยจรสุริยยาตร์จะเป็นผู้กำหนด"ปี" ที่จะเกิดเหตุการณ์ ส่วนดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยจรจันทรยาตร์จะเป็นผู้กำหนด"เดือน" ที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ปรากฏในดวงชะตากำเนิด .."

โดยหลักการคือ จันทร์จรปกติจะประมาณ 12-15 องศาต่อวัน ดังนั้นจากปรัชญาที่ว่าด้วย 1 วันเท่ากับ 1 ปี จึงสรุปความได้ว่าเมื่อโค้งจันทรยาตร์จรได้ประมาณ 1 องศา จึงเท่ากับเป็นเหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน

ในโปรแกรมยูเรนัสจะคำนวณโค้งจันทรยาตร์แบบนี้โดยใช้ ดวงโค้ง v3 หรือโค้งจันทรยาตร์ สุริยคติ(จจย.สค)

สำหรับโค้ง v6 หรือโค้งจันทรยาตร์ จันทรคติ(จค) เป็นการบูรณาการต่อมาโดยขยายขอบเขตของปรัชญาของจันทร์จร 1 วันจะเท่ากับ 1 เดือนทางจันทรคติ หรือเทียบได้คือโค้ง v6 จรได้ 1 องศา จะเท่ากับเหตุการ์ประมาณ 2-3 วัน เพราะ v6 จะจรวันละประมาณ 20-30 ลิปดา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.uraniansoft.com/indexsub.php?subdetail=featuredetail&q_id=135&expand=0&catpos=2

กล่าวโดยสรุปคือ โค้ง v3 ใช้อ่านเหตุการณ์รอบ 1 เดือน ส่วนโค้ง v6 ใช้อ่านเหตุการณ์ในรอบ 2-3 วัน

อย่างในกรณีของ อ.มานิต ในวันที่ 16 ต.ค.2542 โค้ง v6 มีค่าเท่ากับ 225:39:34 ซึ่งก็คือมุมฮาร์โมนิคที่ 16 ทำให่ปัจจัย v6 ทำมุม 22:30 กับปัจจัยกำเนิดนั่นเอง จึงถือเป็นการพิจารณาช่วงวันสำคัญอย่างหนึ่ง

แต่หากจะพิจารณาในระดับเดือนคงต้องใช้โค้ง v3 ลองตั้งดวง Lunar Return พบว่าโค้ง v3 มีค่า 23:38:12 จึงทำให้จันทร์ v3 เท่ากับ เสาร์กำเนิดสนิทองศา ก็แสดงว่าเป็นเดือนสำคัญ (จันทร์ v3 ก็คือตัวเดียวกับจันทร์โปรเกรสนั่นเอง) และยังพบว่า เมษ v3(ค่าโค้ง)=เมอริเดียนกำเนิด , เมอริเดียน v3=เนปจูนกำเนิด , ลัคนา v3 = จันทร์กำเนิด รวมถึง เสาร์ฺ v3 บาปเคราะห์จร=แกนเมษ

สำหรับโค้งเมอริเดียน(v8) ที่จริงไม่ได้เป็นปัจจัยที่ใช้พิจารณาในระดับชั่วโมงหรือนาทีสำคัญ เพราะโค้งเมอริเดียนจะจรวันละประมาณ 1 องศา จึงใช้พิจารณาเหตุการณ์ในระดับของวันเท่านั้น ไม่สามารถพิจารณาในระดับชั่วโมงหรือนาทีสำคัญได้

จากตัวอย่างที่ยกมาว่า v8 MC =r NE/PO ก็หมายถึงว่า"วันนั้น" เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว

อันที่จริงหากใช้เฉพาะ v8 MC ก็คือการใช้ Mp หรือเมอริเดียนจรสุริยคติ นั่นเอง เพราะมาจากฐานคำนวณเดียวกัน แต่หากใช้ปัจจัย v8 ตัวอื่นจะพบว่าเหตุการณ์วันนั้นน่าสนใจขึ้น เช่นในวันนั้นพบว่า v8 MO=เมษ และ v8 SA=r MC , v8 AS=r SA=rHA และ v8 SU=r SU/UR หรือแม้แต่ถ้าตั้ง v8 SU/UR =r UR=r AD ก็แปลตรงๆว่า วันนั้นหัวใจวาย

ในการอ่านข้อมูลในระดับชั่วโมงหรือนาที คงต้องใช้ดวงจร Transit ในการพิจารณากระมัง เพราะยังไม่มีใช้ปัจจัยจรอายุขัยใดๆ มาพิจารณาในระดับชั่วโมงหรือนาทีได้ อาจทำใด้ก็คือใช้ปัจจัยจรTransit + โค้งมาพิจารณา ซึ่งก๋ไม่ได้ต่างอะไรกับการพิจารณา Transit กับ โค้ง v2 นั่นเอง

อย่างในดวงวันที่ 16/10/2542 หากพิจารณาปัจจัยในระดับนาทีพบว่า

t MC = v1 MC
t MO+AD-MC =v1 MO+AD-MC[180|0:00], v1 MO+AD-MC =r MC[0|0:52] นาทีมรณะ
t MO+MO-MC =v1 MO+MO-MC[0|0:18] จุดสำหรับบอกนาทีที่เกิดเหตุการณ์
t MC+SU-PO ทับ r MC และ =r MC+SU-PO[135|0:50] จิตอันอ่อนละไมอยู่ในกายอันละเอียดอ่อน Union of a delicate body and a delicate, highly sensitive soul.
และ MCt+SUt+POt =r MC
t AR+SU-PO =v2 AR+SU-PO[90|1:12] = t MC วิญญาณ กายทิพย์
t SU+PO-KR =r SU+PO-KR[135|0:23], r SU+PO-KR =v1 KR[0|0:44] =MC เด่นทางจิตวิญญาณ ปัญญาอันสูงสุดของกายสังขารนั้น
t SU+SU-MC/PO =r MC/PO//MC+PO และ v1 MC/PO//MC+PO =r SU+SU-MC/PO เรื่องของ Inside และ Outside of the body

เมื่อตรวจสอบโครงสร้างเกี่ยวกับสภาวะทางจิตวิญญาณ จะพบหลายโครงสร้างสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตาเป็นอย่างมาก

แถมด้วยว่าในดวงกำเนิดท่านมี r MC=r AD/VU ในขณะที่ถึงแก่กรรมก็พบว่า t MC=t AD/VU เช่นกัน As Above So Bellow!

ปล. บทความขนาดยาวนี้ได้ประโยชน์มากครับในการทำให้เห็นขั้นตอนการอ่านดวงชะตาเพื่อสรุปรวมจากกว้างจนมาถึงแคบลง

แต่ขออนุญาตปรู๊ฟนิดนึง ตรง คห.ที่ 64 ที่ว่า "พอย่างเข้าวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เมื่ออาทิตย์จร มาอยู่  27 กภ " มันหาไม่เจอน่ะครับ ว่าอาทิตย์ตัวไหน

จึงขอร่วมแสดงความเห็นเพิ่มเติมเพื่อเป็น คุรุบูชาแด่ อ.มานิตย์ ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...ด้วยความเคารพในศาสตร์แห่งการพยากรณ์ วันที่ตอบ 2010-02-14 13:13:34 IP : 124.120.14.175


ความคิดเห็นที่ 73 (2035196)

ขอแก้ไขเล็กน้อยจาก

อย่างในกรณีของ อ.มานิต ในวันที่ 16 ต.ค.2542 โค้ง v6 มีค่าเท่ากับ 225:39:34 ซึ่งก็คือมุมฮาร์โมนิคที่ 16 ทำให่ปัจจัย v6 ทำมุม 22:30 กับปัจจัยกำเนิดนั่นเอง จึงถือเป็นการพิจารณาช่วงวันสำคัญอย่างหนึ่ง

แก้เป็น

อย่างในกรณีของ อ.มานิตย์ ในวันที่ 16 ต.ค.2542 โค้ง v6 มีค่าเท่ากับ 225:39:34 ซึ่งก็คือมุมฮาร์โมนิคที่ 8 ทำให่ปัจจัย v6 ทำมุม 45 องศา กับปัจจัยกำเนิดนั่นเอง จึงถือเป็นการพิจารณาช่วงวันสำคัญอย่างหนึ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว... วันที่ตอบ 2010-02-14 13:23:48 IP : 124.120.14.175


ความคิดเห็นที่ 74 (2035209)

ตกลงขอแก้ คห.64 เป็นข้อความตามนี้แทนนะคับ

เมษ/อาทิตย์ จร เรื่องราววันนี้ 11 มก 17 = วัลคานุส สะท้อน กำเนิด 11 มก 18 ทับสนิท = จุดหัวใจวาย  12 เมษ 00 ในมุมฉากแรง

เรียกว่าปลุกให้ จุดหัวใจวายในดวงกำเนิดให้ ลุกขึ้นมาทำงานอย่างรุนแรง ซะงั้น   อาทิตย์สะท้อนในดวงกำเนิด 6 พภ 34 โดนเสาร์/มฤตยู จรท้องฟ้าวันนั้น จุดถึงแก่กรรมอย่างฉับพลัน เข้าทำมุมแรง 45 องศา ล๊อคไว้อีก   เวลานั้น 16.00 น. พุธท้องฟ้า 15 พิจิก 21 กับเสาร์ 15 พภ 21 ทำมุมเล็ง 180 กัน สนิทยันองศาลิปดา ทำมุมแรง 22.30 องศา กับอาทิตย์ท้องฟ้าวันนี้ ที่ 22 ตล 33 และอาทิตย์จรนี้ อยู่ในภพที่ 8 มรณะกับดวงกำเนิด แปลได้ว่า ยาที่ใช้รักษา ( พุธ ) น่ะช่วยไม่ได้แล้ว หรือ ท่านอาจารย์มานิตย์ที่ประกอบอาชีพขายยา ซึ่งภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า  ท่านเอี๊ยะซือ  ของเราเลยแย่ 

ยิ่งจันทร์จรท้องฟ้าซึ่งหมายถึง ชั่วโมง มาอยู่ที่ 8 มก 52 ทำมุมแรง 45 กับอาทิตย์กำเนิด 23 กภ 45 แล้ว แลจันทร์นี้น่ะโคจรถึง เมอริเดียนกำเนิด ที่ 8 ธน 53 ในมุม 30 องศาอย่างผิวแผ่ว

วันมรณะก็มาแล้ว  ชั่วโมงก็มาแล้ว  ขาดแต่ นาทีเท่านั้น....

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ขอบคุณคับที่ช่วยตรวจให้ วันที่ตอบ 2010-02-14 14:09:41 IP : 118.172.37.243



<< ก่อนหน้า 1 [2]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.