ReadyPlanet.com


โปรดเกล้าฯ นายกคนที่ 27


อาจารย์และท่านผู้รู้ค่ะ

จากดวงกำเนิด และฤกษ์การโปรดเกล้า

แนวโน้มรัฐบาล มาร์ค 1 จะเป็นอย่างไรคะ

ขอบคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ ตะนาว :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-17 18:28:13 IP : 58.9.155.114


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 51 (1879465)

ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิยม  อีเมลล์ผม holis_at_windowslive.com ครับ เบอร์โทรศัพท์ก้อ 0840925555 ครับ

 (แทนที่ _at_ ด้วย @ นะครับ / ทำเพื่อป้องกัน spammail)

ผู้แสดงความคิดเห็น holis วันที่ตอบ 2008-12-22 17:48:44 IP : 124.120.165.172


ความคิดเห็นที่ 52 (1879544)

เรื่องหัวคำนวณชั้นเลิศเนี่ย  สู้สูตร พุธ/มฤตยู และ พุธ+โครโนส-มฤตยู ของยูเรเนียนเราได้หรือเปล่าครับ  และสู้องศาสมบูรณ์ ที่ผมเคยเอามาเผยแพร่ได้รึเปล่า  เพราะผมเคยลองเอาไปให้ อจ.ที่เปิด รร.สอนวิชาจินตคณิตซึ่งเรียนกับผมไปใช้ ปรากฏว่า พวกที่สอบได้ที่ 1-3  ในรุ่นต่างๆเข้าหมดทุกคนเลยกับจุดเจ้าชะตา แต่คงไม่ถึงระดับโลกหรอก  ต้องพวก รามานุจันทร์ , เซอร์ไอแซค  นิวตัน , ไลป์นิช ,ไอร์สไตล์ , สตีเฟ่น ฮ๊อกคิ้ง สิคับ 

มุม ฮาโมนิคที่ 7 = 51 องศา ,103 ก็น่าจะเป็นมุมดี  เพราะผ่าน 45 ร้ายมา จะเข้าหา 60  และ ผ่าน 90 ร้ายมาเพื่อจะไปหา 108 โดยมีลีลาที่ต่างกันออกไป และใช้ได้กับทุกดาว เช่น ตัวของมันเองระหว่างดาวกำเนิดกับดาวจร และกับดาวและปัจจัยต่างๆก็ได้ ตามหลักการแปลแห่งไวยากรณ์ดวงดาวที่ทำมุมสัมพันธ์  ส่วนซาเบียนนี่ผมไม่รู้แฮะ เคยอ่านผ่านตาแต่ยังไม่ get  เพราะผมเรียนมาทางแนวบูรณาการแบบไทยๆพื้นบ้านจากบ้านนอกเรานี่แหล่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ก ข ก กา วันที่ตอบ 2008-12-22 21:55:25 IP : 118.172.94.242


ความคิดเห็นที่ 53 (1879566)

อย่างดวงท่านรามานุจันทร์นั้น  จอมปราชญ์คณิตศาสตร์แห่งอินเดียนั้น   ท่านเกิดครบวันนี้พอดี  22 ธันวาคม 2430 ที่เมือง อีโรด รัฐทมิฬนาดู  อินเดีย  มีสูตร พุธ/มฤตยู = นักคำนวณชั้นดี = เมษ = ดังระดับโลก = อาทิตย์ = เมษ/อาทิตย์ ( เราไม่ทราบเวลาเกิดจริง แต่ พุธ/โครโนส//มฤตยู = พุธสนิทองศา = แอตเมตอส =ความลึกซึ้ง ท่านี้ผมนับถือมาก ถือเป็นเทพเจ้าทางคณิตศาสตร์สมัยใหม่

http://en.wikipedia.org/wiki/Ramanujan

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เฮี๊ยนคับ..เชื่อเหอะ วันที่ตอบ 2008-12-22 22:51:37 IP : 118.172.94.242


ความคิดเห็นที่ 54 (1879600)
ผมก็เคยใช้ 2 โครงสร้างนี้แหละครับ ปรับเวลาเกิด นักคณิตศาสตร์ชั้นยอด 2 ท่าน
 
John F. Nash แห่ง A Beautiful Mind 13/6/1928 ปรับเวลาเป็น 16.45 ME/UR=MC , ME+KR-UR=AR
Stephen Hawking  8/1/1942 ปรับเวลาเป็น 15.22 ME/UR=MO , ME+KR-UR=SU
 
ของไทยก็อย่าง อ.ทองเจือ อ่างแก้ว ผู้คำนวณคัมภีร์สุริยยาตร์ MC=ME=UR=ME/UR=ME+KR-UR = AR =AS
พระยาบริรักษ์เวชการ (นายกสมาคมโหรฯ ผู้วิเคราะห์เรื่อง อธิกมาส อธิกวาร) ME/UR=MO , ME+KR-UR=MC = AR
 
อ่อ แล้วก็ท่านนาโย๊กโอบามาร์คของท่าน ก็ไม่เบานะครับ ME=UR=MO=AR , ME+KR-UR=SU
 
ตัวข้าพเจ้าก็ ME/UR=KR=SU , ME+KR-UR=AR/MC ครับ คณิตศาสตร์ก็ไม่เก่งเท่าไร แค่  Logic ค่อนข้างดีน่ะครับ (อิอิ ชมตัวเอง)
ส่วนลูกสาวตอนนี้อยู่ ป.5 ME/UR=JU=Vx , ME+UR-KR=AS=SU ปีนี้เพิ่งสอบผ่าน สสวท. คณิตศาสตร์รอบแรกไป
ผู้แสดงความคิดเห็น _มาแว๊ว...สูตรนี้ใช้ได้แน่นอนคับ...ชัวร์ป๊าด วันที่ตอบ 2008-12-23 00:29:00 IP : 58.64.105.48


ความคิดเห็นที่ 55 (1879607)

พุธ/มฤตยู ของผมเข้า พฤหัสสะท้อนคับ กับอังคาร เลยกลายเป็นตัวตลก ไปซะฉิบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..แม๊...มิน่า วันที่ตอบ 2008-12-23 00:48:57 IP : 118.172.94.242


ความคิดเห็นที่ 56 (1879733)
แต่ พุธ/โครโนส//มฤตยู ผมเข้า เมอริเดียน เข้าพฤหัส นา ตอน ป.5 คณิตศาสตร์เศษส่วน  คะแนนเต็ม 100  ผมได้ 6 มาสเซอร์เอามาแห่ประจานให้อับอายขายขี้หน้า  ต้องมาเริ่มเรียนกันใหม่ พอ มศ.5 ได้เป็น ตัวแทน โรงเรียนไปสอบแข่งขันที่สมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย ที่จุฬาเชียว แต่ไม่ยักกะได้ที่ 1 แฮะ  เดี๋ยวนี้แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็เมียจำไม่ได้  ต้องเมมลูกเดียว
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...งึมงำกับอดีตชาติอีกแล้ว วันที่ตอบ 2008-12-23 11:08:16 IP : 118.172.90.9


ความคิดเห็นที่ 57 (1879964)

สรุปคุณnUm  คือ อาจารย์กาลจักรหรือป่าวคับ

ลีลาเหมือนๆ  แสดงว่า กระทู้นี้สุดยอดปรจารย์อยู่ด้วยกันเลยนะ

เนี๊ย เป็นบุญจริงๆ

อาจานภารตก็ทายได้เนียนๆแจ่มๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกธรรมดา วันที่ตอบ 2008-12-23 18:54:14 IP : 117.47.131.140


ความคิดเห็นที่ 58 (1880003)

ผมไม่ใช่ กาลจักร แห่งเวบ astrosimple.com
แต่อาศัย software Uastrolog ของเขามาใช้ (เป็น freeware สาย uranian ที่เยี่ยมมาก)


ผมไม่ใช่ คุณหนุ่ม พยากรณ์
แต่ผมกับคุณหนุ่ม มี ชื่อเล่น, ไว้ผมยาว, ไว้หนวดเครา เหมือนกัน แถมยังมีคำว่า "วัฒน" ในชื่อจริงเหมือนกันอีกด้วย แปลกไหม?


ผมเรียนกับอ.ประยูร ที่ รร.โหราศาสตร์กรุงเทพ รุ่นที่ 18 ปี 2532

แต่ทิ้งมานาน เพิ่งจะมารื้อฟื้นความรู้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา
 

อ.พุธลัคน์เคยกล่าวถึงผมไว้ในหนังสือ "ประสบการณ์การทำนายที่ลืมไม่ลง" ในหน้าที่ 40

ผมคือ ชายผู้หนึ่งและเป็นคนบอก อ.พุธลัคน์ ว่า อ.ประยูร เปิด รร.โหราศาสตร์กรุงเทพ อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง
 
อ.พุธลัคน์ คงจำผมไม่ได้แล้วล่ะ


ตัวผมไม่เคยมีผลงานอะไร ไม่เคยไปงานสัมมนาที่ไหน
ชอบเข้าเวบโหราศาสตร์ ศึกษา อ่าน-ตอบ ทำนายผิด ๆ ถูก ๆ ไปตามเรื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2008-12-23 20:59:47 IP : 62.178.29.241


ความคิดเห็นที่ 59 (1880121)
นั่นแสดงว่า มีคู่แฝดกันแล้ว ยังมีอีกคนไงคับ ท่านเกจินู๊ด นิวัติ กองเพียรแห่งมติชนไง   แต่ก่อนผมกับท่านโอฬาริก  ก็มีคนทักผิด (เค้ามาทักผมว่าเป็นท่านโอฬาริก ) เพราะว่าสมบูรณ์ ( แต่บางคนเค้าเข้าใจผิดว่าอ้วน ) เหมือนกัน   แต่ว่าเดี๋ยวนี้เค้ามักจะจำกันได้แล้ว เพราะหน้าท้อง ( บางคนก็ยังเข้าใจผิดซ้ำอีกไปเรียกอย่างหยาบๆคายๆว่า พุง ) ของผมจะกลมกว่า
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...กรุณาเข้าใจตามนี้ด้วย วันที่ตอบ 2008-12-24 09:44:36 IP : 118.172.55.223


ความคิดเห็นที่ 60 (1880229)
คนชื่อหนุ่ม ส่วนใหญ่จะหน้าตาดีครับ ดูอย่างคุณอภิสิทธิ์สิ บางทีเขาก็เรียกว่า หนุ่มมาร์ค อิอิ...
 
ท่าทางจะแฝดทางดวงดาวด้วยนะครับ เพราะมี Uranus สัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตาทั้งคู่
 
ถ้าจะให้แฝดกว่านี้ ต้องใช้โปรแกรมยูเรนัส เหมือนกันด้วยสิครับ
 
ส่วนเกจินู๊ด ไม่กล้าไปแฝดด้วย เดี๋ยวหน้าจะเหี่ยวเหมือนแก น่ะครับ (สงสัยก็จะมี Sex ทางตัวหนังสือซะมากกว่า ส่วนภาคปฏิบัติผมว่างั้นๆ คนใกล้ๆวงการ เขาบอกมา อิอิ)
ผู้แสดงความคิดเห็น _มาแว๊ว...YoungMan ที่มิใช่ OldMan วันที่ตอบ 2008-12-24 12:12:36 IP : 210.246.184.2


ความคิดเห็นที่ 61 (1880298)

พูดถึงท่าน OldMan แล้วคิดถึ๊งคิดถึง...ไม่รู้ท่านไปไหนแล้ว  จะส่งหนังสือไปให้ก็ทำที่อยู่กับเบอร์โทรท่านหายไป ไม่รู้เก็บไว้ที่ไหนย้ายนู่นย้ายนี่แล้วหาไม่พบ   ยังไงถ้าท่านอ่านเจอหรือใครรู้จักกรุณาบอกต่อด้วย  ก็แจ้งมาบอกผมหน่อยคร้าบ....

ท่านเกจินู๊ดท่านยังไงก็ยังงั้นนะคับ  คืออาจจะแก่อยู่ตัวก็ได้  สมัยก่อนนานมากแล้ว  สมัยที่มีหนัง 8 มิลล์ที่แอบฉายแถวซอยกลางสุขุมวิท  ผมกับแกเบียดเสียดแย่งกันยืนดูอยู่ด้วยกัน  กับเมื่อเร็วๆนี้เห็นที่สนามบินเชียงใหม่  ผมก็ยังเห็นตะแกแต่งชุดเครื่องแบบเดิมๆอยู่นั่นแหล่ะคับ  น้าเนาว์อีกคน เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์ กวีศิลปินแห่งชาติ ดูยังไงก็ไม่เห็นเปลี่ยนเท่าใด เห็นมาตั้งแต่ผมยังวัยกระเตาะ เอ๊ะ !! หรือว่าพวกตะแกเค้าแก่กันอยู่ตัว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เก็บหนังสือไว้ให้เล่มนึงคับ วันที่ตอบ 2008-12-24 14:21:40 IP : 118.172.93.118


ความคิดเห็นที่ 62 (1881030)
OldMan ก็มาแว๊ว ครับตามแรงแห่งความคิดถึง ของท่านภารต แล้วจะติดต่อทางโทรนะครับ ของคุณ คห.ที่ 60 มากครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น OldMan วันที่ตอบ 2008-12-26 09:15:49 IP : 125.24.84.100


ความคิดเห็นที่ 63 (1881145)
ขอรับคับพ้ม..กำลังดำเนินการจัดให้คับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เสน่ห์แห่งวังวนของโหรา วันที่ตอบ 2008-12-26 12:28:21 IP : 118.172.94.115


ความคิดเห็นที่ 64 (1881365)

เรียนถามอ.ภารตะ

"หาเวลาเกิดจาก ทวาทศางศะ และ ตฤมศางศะ "

ดูอะไร อย่างไร หรือครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนกันเอง วันที่ตอบ 2008-12-26 19:41:59 IP : 114.128.173.200


ความคิดเห็นที่ 65 (1881520)

เรื่องมันยาวคับ หลักการคร่าวๆ คืองี้   เกิดจากการแบ่งราศีเป็นส่วนๆ  โดยแบ่งเป็น 12 ส่วนใน 1 ราศี เรียกว่า ทวาทศางศะ และแบ่งออกเป็น 30 ส่วน เรียกว่า  ตฤมศางศะ  และบีบเข้าหากันจากเกษตรในแต่ละส่วน  แบบปิรามิด  โดยรวมตรียางค์ และราศีเข้าไปด้วย  โดยตัวสุดท้ายคือ ตฤมศางศะนั้น จะเป็นตัวตัดสินเรื่องเวลาที่ ลัคนาหล่นใส่ ซึ่งจะย้อนกลับไปหาเวลาเกิดได้  ความจริงเป็นเรื่องที่มีมาแต่โบราณแล้วเป็นแนวโหราศาสตร์อินเดีย  และตามหนังสือปรับเวลาเกิดของ ท่านอาจารย์ดร.วินัย ก็มีมาในแนวนี้เช่นกัน  แต่อธิบายไปในรูปแบบอื่น ในภาษาวิชาการร่วมสมัย  คือ ใช้เป็นแนวบุคลิกภาพ นั่นเอง  และสุดท้ายวิธีนี้ก็ต้องเอาแนวโหราศาสตร์ไทยแนวสิบลัคนาตำรับของท่านปรมาจารย์ขุนชอบรักตะปะกรมาปรับแบบพิศดารตรงลูกนวางค์มาเป็นข้อต่อผูกขึ้นไปก่อนตฤมศางศะ  ( ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้ง่ายกว่านี้ เพราะถ้าใครที่มาอ่านพื้นฐานไม่แน่นในเรื่องนี้ก็จะเห็นภาพไม่ออกและนึกภาพวิธีต่างๆที่อธิบายนี้ไม่ได้เลย )

ส่วนหาแบบปรับจากจันทร์นั้นเป็นแนวทางท่านอาจารย์ผดุง  ผึ่งประเสริฐ  ที่ใช้กับโปรแกรม Astrobuild ที่หาส่วนต่างของตาหน้าตาหลังของจันทร์ในแต่ละครึ่งช่วงของวัน  แล้วหาเหตุการณ์สำคัญในอดีตเอามาปรับ  โดยหาส่วนต่างองศาของ จันทร์กับเมอริเดียนของเหตุการณ์ๆนั้นที่สัมพันธ์กับแกนเมษ  โดยตัวโปรแกรมนี้จะปรับหาเวลาผกผันออกมาได้  แต่ยังมีคลาดเคลื่อนอยู่ นิดหน่อยต้องมาใช้วิธีอื่นปรับอีกที

ส่วนวิธีที่ใช้ดาวสะท้อน เป็นการประยุกต์วิธีการที่ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ท่านใช้ อีกทีหนึ่งเป็นวิธีการที่มีอยู่เดิมแต่ผมไปหยิบเทคนิคนี้เอามาใช้อีกทีหนึ่งคับ  โดยปรับจากโปรแกรม Virgo ของท่านอาจารย์โรจน์  จินตมาส  และโปรแกรมยูเรนัส ก็ได้

ถ้าใช้ทั้ง 3 รูปแบบที่ว่า ได้อย่างกลมกลืนแนวบูรณาการเป็นแล้ว จะหาเวลาเกิดได้ค่อนข้างตรงเป็นที่เชื่อถือได้ทีเดียวเชียวคับ  เพราะถ้าหาอันใดอันหนึ่งอาจจะมีความคลาดเคลื่อนได้ในกรณีของผู้ที่ไม่ชำนาญในการปรับ

การปรับเวลาเกิดของวิธีแนวของผมจึงค่อนข้างยากในกรณีที่เจ้าชะตามิได้มาเจอผู้ปรับเวลา

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นในการปรับเวลาเกิดที่พิศดารอีกหลายอย่าง เช่นแนวสัปดนที่ลี้ลับ  และปรับจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของเจ้าชะตา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ใครมีวิธีอื่นอีกก็เอามาบอกมั่งคับ วันที่ตอบ 2008-12-27 12:13:29 IP : 118.172.30.93


ความคิดเห็นที่ 66 (1881600)

ขอบคุณครับ ทวาทศางศะ กับ ตฤมศางศะ นั้นผมคำนวนได้ว่ามายังไง รู้วิธีอ่านแต่ก็คร่าวๆ เช่นใช้ดูพ่อแม่ตระกูล และดูนิสัยความอ่อนแอ โรคภัยไข้เจ็บ รู้ความหมายพิเศษของดาวและเรือนบางเรือนบ้าง แต่มันก็ไม่จะแจ้งพอจะให้เกิดผลทางปฏิบัติ อยากรู้ว่ามีเคล็ดความเข้าใจอะไรที่มาตกหล่นเก็บซ่อนอยู่ในเมืองไทยบ้าง แต่เมื่อวิธีใช้มันไปเกี่ยวพันกับวิชาที่ห้ามพูดกับคนนอก ก็คงต้องขอผ่าน ไม่เป็นไร อย่างไรก็ขอบคุณ

เท่าที่ผมทราบมาทางภารตะก็ยังมี วิธี มุนตา คือเอาองศาลัคนา คูณ81 แล้วเทียบกับนักษัตรจันทร์กำเนิด ต้องตรีโกณกัน และยังมีวิธีตรวจจาก นวางศ์ทวาทศางศ์ คือเอาราศีหารเก้า แล้วหารสิบสองส่วนอีก ดูองศาคู่คี่ จะยืนยันว่าต้องเป็นดวงชายหรือหญิงมาเกิดเท่านั้น ใช้ตรวจสอบได้ส่วนหนึ่ง แล้วก็มีการใช้จุดที่เรียกว่า pranapada อีก เหล่านี้เป็นต้น สารพัดเทคนิคแต่เห็นโหรอินเดียก็ยังมีปัญหาในเรื่องหาเวลาเกิดแบบเป๊ะๆเหมือนๆกันกับเราอยู่นั่นเอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนกันเอง วันที่ตอบ 2008-12-27 16:45:49 IP : 114.128.173.132


ความคิดเห็นที่ 67 (1881609)

อีกวิธีหนึ่งที่นึกขึ้นมาได้ก็คือ หาจากจุดโชค หรือจุดอารเบียน  คือ ลัคนา+อาทิตย์-จันทร์  นี่แหล่ะ ก็พอได้ถ้าทำเป็น 

แต่ทั้งหมดนี้  ต้องรู้พื้นฐานโหราศาสตร์สากล และ โหราศาสตร์ยูเรเนียน  มาค่อนข้างจะช่ำชองพอสมควรครับ  โดยเฉพาะเรื่องครบวงจร  ซึ่งเรื่องนี้หลายๆสำนักเท่าที่รู้มาอธิบายไม่ตรงกันซะทีเดียว  แม้กระทั่งแนวท่านปรมาจารย์ทั้ง 2 เอง ก็ไปกันคนละแนว  ไม่ต้องอื่นไกลอย่างในเว็บนี้ ท่านมาแว๊ว ก็ว่าไปอย่าง ท่านอธิก็ว่าไปอย่าง  ท่านอาจารย์วิโรจน์ ที่วิจารณ์ดวงนายกทักษิณ ก็ไปอีกอย่าง หรือผมเองผมก็เข้าใจและเรียนรู้มาอีกอย่างหนึ่ง  เท่าที่สังเกตดู คำว่าดาวทำมุมครบวงจร เท่าที่แสดงมาเลยไม่เป็นไปแนวทางเดียวกันซะทีเดียว  หรือที่จริงแล้วพวกท่านอาจจะรู้ครบเพียงแต่ที่เอามาแสดงเป็นเพียงบางท่อนบางมุมก็ได้ เรื่องบางเรื่องน่าจะเอามาสันทัสเสตัพพะ ( สอบสวนให้เป็นไปในแนวเดียวกัน )และโอสาเรตัพพะ ( หยั่งไปถึงใจความอันแท้จริง)ให้เป็นที่ครึกครื้นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...คงมีอีกหลายวิธีที่ผมไม่รู้ วันที่ตอบ 2008-12-27 17:13:06 IP : 118.172.26.233


ความคิดเห็นที่ 68 (1881611)

ส่วนเรื่องของวิชาที่ว่าห้ามพูดกับคนนอกนั้น  อันนี้ตามจริงแล้วผมแอนตี้ด้วยซ้ำคับ  เพราะเคยโดนมาหนัก  เพียงแต่ว่าบางเรื่องเอาคุยกันได้บางเรื่องก็ไม่เหมาะที่จะมาคุยกันในเว็บบอร์ดสาธารณะ  บางประเด็นบางมุมมันให้แง่มุมหลายๆอย่างทั้งดีทั้งร้าย  ที่อธิบายมานี้นั้นคนที่เขาพอรู้บ้างเขาก็จะทราบทันทีเลยครับ  ไม่ได้ลึกลับอะไรเท่าไหร่เลย  เป็นเรื่องพื้นฐานซะด้วยซ้ำ  เพียงแต่ว่า เมื่อเวลาผ่านไปการต่อยอดของรุ่นลูกศิษย์แต่ละสาขาก็มีแนวโน้มที่แตกต่างกันออกไป  ผมเพียงแต่นำมารวมกันให้มองดูเป็นบูรณาการองค์รวมของวิชาว่ามีที่มาจากไหนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต... วันที่ตอบ 2008-12-27 17:25:49 IP : 118.172.26.233


ความคิดเห็นที่ 69 (1881751)
จาก คห.67.. เรื่องบัญญัตืศัพท์ให้ตรงกันนี้ ผมเคยมาชวนคุยแล้วบ้าง แต่กระทู้กลายเป็นอื่นเสีย ผมเป็นคนจิตใจไม่ค่อยแข็งแรง ทั้งยิ่งอ่อนอาวุโสยิ่ง จึงไม่คิดจะต่อเรื่องนี้อีก ไว้รอให้ผู้มีบารมีพอท่านมาทำเมื่อถึงเวลาของมันก็แล้วกัน ตอนนี้ก็ต่างคนต่างว่ากันไปก่อน ยังไม่ถึงเวลาของฟ้า.. ทุกวันนี้ เวลาคุยกับเพื่อนใหม่ ผมจะพูดทุกภาษาเลยคือ เช่น ในมุมมองยูเรเนียน.. สากลเขาเรียก.. ที่สาย อ.วินัย นิยมเรียกว่.. หรือที่ทฤษฎีเรียกว่า.. แต่ถ้าในโปรแกรมนี้ใช้ว่า.. ที่แท้ก็เรื่องเดียวกันหมดแหละ พอรู้ว่าคู่สนทนาถนัดอย่างไหน ผมก็ค่อย ๆ ปรับใช้แต่ภาษานั้น ๆ ต่อไป ใช้เวลาหน่อย แต่ก็สนุกดีนะ หากเราชอบความหลากหลาย ทุกคนมีมุมมองที่จะทำให้เห็นง่ายขึ้นน่ะ แล้วบางอย่างกลายเป็นภาษาเฉพาะกลุ่มไป คนมาทีหลังก็งงหน่อย แต่มันส์แล้วจะชิน อยู่ประเทศไทยน้ี ภาษามันก็มีรากมาจากหลายแหล่ง บาลี สันสกฤต ขอม จีน อารบิค ไทยเดิม เช่น อาทิตย์นั้น ท่านก็ใช้ทุกภาษามาเลย ระวิมรรค (สุริยวิถี) ทินวรรษ (ทำไมไม่เป็นสุริยวรรษ? ระวิวรรษ?) สุริยคราส เกิดทีหลัง ปัญญาท่านสืบทอดมาแล้ว กมีหน้าที่รับช่วงต่อไป เห็นผิดสับสนนัก นานเข้าก็ค่อยสังคายนาที..
ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2008-12-28 11:05:35 IP : 202.149.25.238


ความคิดเห็นที่ 70 (1881761)

นั่นแหล่ะ แต่ก่อนผมก็เง็ง ( งง+เซ็ง )กับศัพท์  เช่น จันทรวรรษ  จันทรยาตร์  จันทรคติ , สุริยวิถี กับ รวิมรรค  , จุดอารเบียน กับ องค์ลาภ  ,โค้งสุริยยาตร์ กับ ทินวรรษ  และโปรเกรส ซึ่งโปรเกรสเองก็มีตั้งอย่างน้อย 3 รูปที่ใช้ๆกันและเอาตัวไหนกันแน่  มากเรื่องก็มากความ  ต้องเล่น วี1,2,3,4 .... ไล่ไปจนถึง 8 แบบน้ามาแว๊วรึยังไง

 เช่นเดียวกับ คำว่าครบวงจร  ก็ไม่รู้ว่าวงจรไหนกันแน่   เพราะมีทั้งครบวงจรทางดาว  ครบวงจรทางศูนย์รังสี และครบวงจรทางจุดอิทธิพลชนิดต่างๆ ( หลายรูปแบบสมการ ) และครบวงจรของวงจรดาวอีกทีหนึ่ง เลยไปถึงครบวงจรของเหตุการณ์ในเชิงโค้งต่างๆ  ซึ่งแต่ละอย่างมันก็ไม่เหมือนกัน

เพราะพอเค้าว่าเริ่มเก๋าขึ้น  ( อายุมากเข้า-อ่านมามากเข้า ) หรือถามโหราจารย์ท่านนู้นท่านนี้เข้า  ก็เริ่มคิดออกได้เองซึ่งก็ไม่ใช่ทฤษฎีใหม่อะไรนักหนามีมาแต่เดิมๆแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้จัดหมวดหมู่กันให้เป็นที่เป็นทางไปเองแหล่ะ

ส่วนเรื่องจิตใจแข็งแรงกายแข็งแรงอะไรนั่นน่ะ ก็รู้สึกจะเป็นสมการผกผันกับความอาวุโสอีกนั่นแหล่ะคับ เรื่องนี้ไม่ยักกะครบวงจรแฮะ...แปลก

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...สังคายนาซะก็ดีแต่ไม่มีบารมีพออ่ะ วันที่ตอบ 2008-12-28 11:46:58 IP : 118.172.53.121


ความคิดเห็นที่ 71 (1881768)
ส่วน คห. 66 นั้น ผมใช้คนละแนวเลยนะครับ  แตกต่างเป็นคนละระบบเลย  เพียงแต่เอาปรัชญาของดาวและราศี  และการแบ่งส่วนมาใช้  ส่วน 10 ลัคนาตรงนวางค์ราศี ก็เอามาเฉพาะ โครงสร้างกระโหลกและบุคลิกตามปรัชญาดาวราศีมาใช้เท่านั้น  แล้วจึงเอามาปรับใช้เป็นเป็นจุดพิกัดปัจจัยในแนวต่างๆของยูเรเนียน  ซึ่งครอบครัวและเพศของเจ้าชะตาไม่เกี่ยว การทำมุมว่ากันเป็นพิกัดจุดเป็นองศา ไม่ใช่เป็นแถบกวาดเอา  ในทางปฏิบัติจริงยังไม่มีอันใดตรงเป๊ะเป็นเอกฉันท์ ดังนั้นจึงต้องเอาทุกทฤษฎีมาคัดกรองให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เป็นองศา บวกลบ ไม่เกิน 4 นาที
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...คนละแนวกับอินเดีย วันที่ตอบ 2008-12-28 12:47:28 IP : 118.172.53.121


ความคิดเห็นที่ 72 (1881783)
นี่ผมก็ยังคิดศัพท์ใหม่ที่รมความทั้งหมดไว้อยู่ต่อไปนะครับ ปลายปี 2550 เมื่อโปรแกรม เอรีส | Aries เผยโฉมสู่โลกครั้งแรก ผมใช้คำว่า ผสานพลัง เรียกกันจนติดป่ากในหมู่ชนกลุ่มน้อยที่ใช้โปรแกรมนั้น (ได้เรียนรู้และได้รับการตอกย้ำมุมองแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจาก อ.อดิเทพ เช่น A/B r = A/B v = A/B t, A+B-C r = A+B-C v = A+B-C t ซึ่ง อ.อดิเทพ ใช้ตาเปล่าหาได้ ราวกับมีตาทิพย์ ในที่อื่น ๆ เช่น หนังสือ มีให้เห็นบ้างแต่ผมก็เพียงเล็กน้อยเกินไป) ต่อมาผมอยากจะเลือกใช้ให้เหมือนคนส่วนใหญ่ดู จึงหันมาหาคำว่า ครบวงจร ต่อมาอีกก็ในเร่ือง แกนถึงแขน แขนถึงแกน แกนถึงแกน ครึ่งโค้ง เต็มโค้ง (ของปัจจัย A กับ B ไม่ใช่ค่าโค้ง Solar Arc) หรือ A-B, A-B /2 เพราะศัพท์ไม่เหมือนกันอีก จะบังคับให้ใครใช้ภาษาคณิตศาสตร์ก็ไม่ได้ เพราะบ้างไม่ชอบ คล้ายเป็นภาษาทฤษฎี มิใช่ปฏิบัติ ล่าสุดนี่ผมคิดจะใช้คำว่า ซ้ำรอย (เริ่มใช้ไปบ้างแล้ว) หรือ ย้ำรอย เพราะกินความรวมทุกเรื่องข้างตนเข้าด้วยกันได้หมด รวมทั้งการแลกดาวระหว่างวง หรืองูกินหางด้วย (At/Br = Ar/Bt ซึ่งก็คือพระเคราะห์สนธิแท้ หรือจตุโกณข้ามวงนั่นเอง) ซึ่งจะเห็นว่าเหตุการณ์จะเกิดได้นนั้น ล้วนต้องเกิดการ ซ้ำรอย หรือ ย้ำรอย ข้อมูลที่มีมาแล้วในดวงกำเนิดทั้งสิ้น ในมุมมองใดมุมมองหนึ่ง (รวมทั้งพวก Ax/By = Az, Bz เช่น Av/B = A, A/B = At, A/B = Cv = Ct เป็นต้น งงกันไม๊เนี่ย นี่คงเป็นภาษาคณิตศาสตร์ที่เป็นรูปสมการทั่วไปม๊ากก)
ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2008-12-28 13:31:11 IP : 202.149.25.238


ความคิดเห็นที่ 73 (1881839)

เรื่องแขนดาวแกนดาวอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้กันแล้วสับสนวุ่นวาย  เป็นภาษาหนังสือตำราที่ใช้กันหลายสำนัก    เพราะแขนถึงแกน  แขนถึงแขน และ แกนถึงแกน  สุดท้ายคนอ่านงง  ไม่รู้ว่าแขนอะไรและแกนอะไรกัน ( วะ )  กว่าจะรู้เรื่องก็ต้องเพ่งสมาธิทำความเข้าใจกันหนักพอดู  จากนั้นก็มา ดาวจี้แกนอีกซ้ำร้าย  หรือแกนต่างๆจี้ปัจจัย  ทยอยมาให้งง   พวกเก่งคณิตศาสตร์ก็เข้าใจ สมการง่ายสิคับ  เพราะสมองซีกซ้ายท่านปราชญ์เปรื่อง ในเรื่องพวกนี้  ส่วนพวกที่ไม่ได้เรียนวิทย์ หรือ  ประถมสอบเทียบจะทำยังไง มันก็เข้าใจได้ยากเป็นธรรมดา หรือบางทีศัพท์บางคำก็เรียก  Bn บางทีก็เรียก Br  ซึ่งสุดท้าย(มัน) ก็ดันมาเป็นตัวเดียวกันซะอีก  คือ ปัจจัย B ในดวงกำเนิดทั้งคู่  ใครไม่รู้แนวจะติดค่ายกล

ส่วนคำว่าซ้ำรอยนั้น  ผมยังเห็นว่ายังพอมีจุดรั่วได้อยู่คับ แต่คำว่า งูกินหางนั้น อันนี้เข้าท่า น่าจะกินความได้ครบ แต่ว่า มันเป็นเรื่องของดาวและปัจจัย น่ะสิครับ คำว่าครบวงจรนั่นแหละ  เข้าทีแล้วเพียงแต่ว่า  ผู้ศึกษาต้องเข้าใจให้ครบทั้งหมดว่า  ผู้อธิบายท่านกำลังใช้คำนี้อธิบายในแง่มุมของวงจรไหน เพราะมีหลายวงจรเหลือเกิน  โดยแต่ละอย่างก็ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะในแง่การตีความและคำแปลของไวยกรณ์ดาว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เล่าให้ฟังอีก วันที่ตอบ 2008-12-28 19:20:21 IP : 118.172.57.40


ความคิดเห็นที่ 74 (2107539)

extensions clips full lace wigs choose from First you wigs several times since this human hair wiglets full lace wig.

ผู้แสดงความคิดเห็น rava (george-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 11:03:32 IP : 125.126.157.28



<< ก่อนหน้า 1 [2]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.